5) Step 16: ทบทวนการแบ่งหน้าที่
หลังกำหนดระบบและวิธีการบำรุงรักษาแล้ว ในการดำเนินงานบำรุงรักษาจริง ต้องมีการแบ่งหน้าที่ของหน่วยงานหรือคนที่จะทำแต่ละโปรแกรมอย่างเป็นรูปธรรม
การทำการบำรุงรักษาเครื่องจักรในความเป็นจริงคือคน หากไม่กำหนดว่า “ใครทำอะไร” งานก็ไม่เดินหน้า การแบ่งงานนี้ เป็นการรักษาระบบการบำรุงรักษา และกำหนดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ตัวอย่างการแบ่งหน้าที่โดยภาพรวมของกิจกรรมการบำรุงรักษาได้แสดงในผังที่ 5-10
ตัวอย่างการแบ่งหน้าที่ตามเนื้อหารายละเอียดของงานดังแสดงในผังที่ 5-11
ค่าจัดซื้อสิ่งของ ค่าเช่าเครื่องจักรหนัก การปรับปรุงวิธีการบำรุงรักษา ยกระดับความน่าเชื่อถือ นำเข้าเทคนิคการวินิจฉัยเครื่องจักร เป็นต้น
เป็นงานที่ควรต้องดำเนินการโดยช่างซ่อมบำรุง อีกทั้ง กรณีที่ขอบเขตของเครื่องจักรกว้างขวาง จุดที่ต้องตรวจเช็คมาก แทนที่จะต้องเพิ่มช่างซ่อมบำรุง สู้แบ่งหน้าที่ไปให้ผู้ปฏิบัติงานทำจะดีกว่า “ผู้ใช้เครื่องจักร” จะสามารถค้นพบ “ความผิดปกติของเครื่องจักรที่ใช้” ได้อย่างรวดเร็ว
ในกรณีนี้ ผู้ปฏิบัติงานอาจมีทักษะไม่เพียงพอ แต่หากมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน ส่วนของทักษะที่ไม่เพียงพอก็ขอให้ดำเนินกิจกรรมฝึกอบรม เช่น กิจกรรมการบำรุงรักษาด้วยตนเอง (AM) ระยะหลัง การดำเนินการไม่เพียงใช้พนักงานบริษัทตนเอง แต่ใช้องค์กรภายนอกมากขึ้น ต้องระมัดระวังว่า Outsourcing มีจุดประสงค์เพื่อให้องค์กรภายนอกใช้ “เทคโนโลยี” ของบริษัทนั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่แท้จริงเพื่อการลดต้นทุน
★ กำหนดโครงสร้างกำลังคน
หลังกำหนดหน้าที่ ให้กำหนดภาระงานมาตรฐานและขนาดกำลังคนในการทำงานและปฏิบัติงานจริง จากขนาดตรงนี้จะเป็นตัวกำหนดแผนการกำลังคน และนโยบาย Outsourcing ในอนาคต
เมื่อกำหนดขนาดกำลังคนได้แล้ว จึงคำนวณหาขนาดงบประมาณการบำรุงรักษาประจำปี และพิจารณาว่าเป็นไปตามนโยบายหรือไม่อย่างไร
เรียบเรียงโดย อาจารย์ณรงค์เกียรติ นักสอน
ที่ปรึกษา TPM-JIPM