ต่อจากนี้จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับ Mother Program
โดยอยากให้คำนึงถึงวิธีการสร้างการบำรุงรักษาเครื่องจักรตามทฤษฎี
(1) Stage 0 : จำแนกลำดับความสำคัญของเครื่องจักร
ในการสร้างโครงสร้างการบำรุงรักษาเครื่องจักรจริง ไม่ใช่ว่าจะจัดการกับเครื่องจักรทั้งหมดเท่าเทียมกัน แต่ต้องเริ่มจากการตรวจสอบลำดับความสำคัญของฟังก์ชันของเครื่องจักรทั้งหมดของบริษัทตัวเอง
ก่อนอื่นดำเนินการ Risk Assessment แต่ละหน่วยของเครื่องจักร และจำแนกลำดับความสำคัญนั้น ลำดับความสำคัญในที่นี้ไม่มีจุดประสงค์ในการจำแนกอย่างละเอียด
แต่มีจุดประสงค์เพื่อแยกเครื่องจักรจากลำดับความสำคัญเฉพาะของเครื่องจักร ตามการจำแนกนี้ ก่อนอื่น ให้กำหนดนโยบายการบำรุงรักษาแต่ละตัวคร่าว ๆ วิธีการจำแนกระดับความสำคัญนี้ได้แสดงตัวอย่างดังต่อไปนี้
1. เครื่องจักร-ขอบเขตที่กำหนดระบบการบำรุงรักษาตามกฎหมายหรือข้อบังคับ
เช่น : อุปกรณ์ก๊าซแรงดันสูง ตู้แช่แข็ง เครนขนาดใหญ่ ฯลฯ
2. ประเมิน Loss-Risk (อัตราการเกิด ระดับผลกระทบ)
3. มีความซ้ำซ้อน เช่น มีเครื่องสำรองหรือไม่
4. เป็นเครื่องจักรพิเศษที่มีการกำหนดระบบการบำรุงรักษา
5. เครื่องจักร-ขอบเขตที่กำหนดความรับผิดชอบการบำรุงรักษาตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
6. เครื่องจักร-ขอบเขตที่มีการมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบภายนอก เช่น Outsourcing, Maker ดูแล
ลำดับความสำคัญ โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท
เครื่องจักร Rank S : ทำให้การหยุดเนื่องจากการขัดข้อง เป็นต้น น้อยที่สุด
เครื่องจักร Rank A : เมื่อเกิดการขัดข้องแล้วมีการสูญเสียทางทางเงินสูง
เครื่องจักร Rank B : ถึงจะเกิดการขัดข้องก็มีการสูญเสียทางการเงินน้อย
เครื่องจักร Rank C : ถึงจะเกิดการขัดข้องก็มีผลกระทบน้อย
จากการจำแนกลำดับความสำคัญข้างต้น จึงสรุปนโยบายการบำรุงรักษาได้ดังนี้
- สิ่งที่มีในกฎหมายข้อบังคับ ให้ทำ PM ตามกฎหมาย
- กำหนดสิ่งที่ทำ Breakdown Maintenance ได้ในแต่ละส่วนของเครื่องจักร
- ดำเนินการ approach ในการกำหนดระบบการบำรุงรักษา โดยเฉพาะต้องพิจารณาด้วยมุมมองว่าส่วนไหนถ้าทำการบำรุงรักษาอย่างไรแล้วจะลดความเสี่ยงได้ เครื่องจักรที่มีการจำแนกเช่นนี้ จึงจะเข้าสู่กิจกรรมของ Mother Program ตั้งแต่ Stage 1 ตามลำดับ
เรียบเรียงโดย อาจารย์ณรงค์เกียรติ นักสอน
ที่ปรึกษา TPM-JIPM