...

ตอน 33 (Autonomous Maintenance)Step 7 การบริหารจัดการด้วยตนเองอย่างจริงจัง 1. การบริหารจัดการประจำวันคืออะไร

  เอาละ มาถึง Step 7 “การบริหารจัดการด้วยตนเองอย่างจริงจัง”  การบริหารจัดการด้วยตนเองนี้ ประกอบด้วย “การบริหารจัดการประจำวันและการบริหารจัดการนโยบาย”  การอธิบายเพียงแค่นั้น คงไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร  ดังนั้น จะขออธิบายไล่ตามลำดับว่าการบริหารจัดการด้วยตนเองในทางรูปธรรมว่า “จะต้องทำอะไรอย่างไร”  ก่อนอื่นจะขอพูดเรื่องการบริหารจัดการประจำวันที่ต้องการในการทำการบริหารจัดการด้วยตนเอง การบริหารจัดการประจำวัน หมายถึง “การทำให้สิ่งที่กำหนดของทุกสถานที่ทำงานอยู่ในสภาพปฏิบัติตามได้ง่าย เพื่อยกระดับการบรรลุกิจกรรมการผลิตด้วยการปฏิบัติตามอย่างแน่นอน” ●  สิ่งที่ทำมาแล้ว คำขวัญร่วมกันของพวกเราจนถึง Step 6 ของ AM ก็คือ “สิ่งที่กำหนดต้องปฏิบัติตามให้ดี  เพื่อการนี้ ต้องไคเซ็นให้ปฏิบัติตามได้ง่าย” และน่าจะทำให้สิ่งที่กำหนดของสถานที่ทำงานของพวกเราปฏิบัติตามได้ง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อน น่าจะยกระดับทักษะการปฏิบัติตามสิ่งที่กำหนดของพวกเรากันเอง เมื่อคิดอย่างนี้ ก็อาจกล่าวได้ว่า สิ่งที่พวกเราทำกันมาในกิจกรรม AM ก็คือ “การยกระดับการบริหารจัดการประจำวัน” ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการในการบริหารจัดการด้วยตนเอง ●  สิ่งที่ต้องทำต่อไป ดังนั้น ใน Step ของการบริหารจัดการด้วยตนเองจากนี้ ต้องประเมินด้วยตนเองว่า “ได้ปฏิบัติตามอย่างแน่นอน” ในสิ่งที่กำหนดว่าต้องปฏิบัติตามที่ได้ทบทวนกันมาจนถึงตอนนี้  และในตอนนั้นสิ่งที่รู้สึกว่าปฏิบัติตามได้ยาก ต้องไคเซ็นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ “ปฏิบัติตามได้ง่าย” ด้วยการทำกิจกรรมอย่างนี้อย่างต่อเนื่อง  เอกสารมาตรฐาน AM หรือมาตรฐานการปฏิบัติงานที่พวกเราต้องปฏิบัติตาม […]

ตอน 32 (Autonomous Maintenance)Step 6 การสร้างมาตรฐานและการควบคุมรักษา 3. ทบทวนสิ่งที่กำหนดอย่างไร

เพื่อให้ปฏิบัติตามสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน จำเป็นที่ทุกคนต้องพูดคุยหารือ ทบทวนแต่ละหัวข้อเหล่านั้นว่า “จะปฏิบัติตามอย่างไร” “อะไรที่ปฏิบัติตามได้ยาก” “ตรวจสอบอย่างไรว่ามีการปฏิบัติตามอยู่”  นั่นก็คือสิ่งที่ต้องดำเนินการใน Step 6 “การสร้างมาตรฐานและควบคุมรักษา” ●  พิจารณาหัวข้อที่ควรต้องทบทวน ในการดำเนินการ Step 6 ก่อนอื่นต้องพิจารณาเกี่ยวกับว่า “หัวข้อไหนที่จำเป็นต้องทบทวนเพื่อให้ปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง” สิ่งสำคัญคือการกำหนดหัวข้อที่ต้องทบทวนใน Step นี้จากจุดที่ว่า ต่อผลสัมฤทธิ์ที่พวกเราคาดหวัง “อะไรเป็นสิ่งที่ระดับการประเมินต่ำ” “เพื่อการยกระดับนั้น ต้องปฏิบัติตามสิ่งที่กำหนดอย่างไรให้ดี”  โดยดำเนินการในแต่ละหัวข้อตามขั้นตอนที่แสดงดังต่อไปนี้ โดยใช้เวลาราว 2-3 เดือน ●  ลิสต์สิ่งที่กำหนด และประเมินระดับการปฏิบัติตาม ก่อนอื่น ต่อแต่ละหัวข้อที่ต้องทบทวนใน Step นี้ ให้พวกเราลิสต์ “ขั้นตอนหรือจุดสำคัญ” ที่ต้องปฏิบัติตาม จากเอกสารมาตรฐาน AM หรือมาตรฐานการปฏิบัติงานที่กำหนดเอาไว้  เพราะว่าในเอกสารมาตรฐาน AM หรือมาตรฐานการปฏิบัติงานมีสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามเกี่ยวกับ 4M (Machine-Material-Man-Method) เอาไว้แล้ว จุดสำคัญคือลิสต์สิ่งที่กำหนดเหล่านั้นออกมา  หากยังไม่มีการจัดทำเอกสารมาตรฐาน AM หรือมาตรฐานการปฏิบัติงาน ต้องจัดทำมาตรฐาน AM ชั่วคราว-มาตรฐานการปฏิบัติงานชั่วคราวขึ้นมา ถัดจากนั้น […]

ตอน 31 (Autonomous Maintenance)Step 6 การสร้างมาตรฐานและการควบคุมรักษา 2. ทบทวนสิ่งที่กำหนดอย่างไร

2 ทบทวนสิ่งที่กำหนดอย่างไร พวกเราต้องใช้สิ่งของต่าง ๆ (ทรัพยากร) ที่มีอยู่หน้างานเพื่อทำกิจกรรมการผลิต และคาดหวังผลสัมฤทธิ์จากแง่มุมต่าง ๆ ระหว่างสิ่งเหล่านั้น มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ให้ลองคิดว่าต้องปฏิบัติตามสิ่งที่กำหนดอย่างไรบ้าง ●  คาดหวังผลสัมฤทธิ์แบบไหน พวกเราต้องการผลสัมฤทธิ์ต่อ PQCDSM (ยอดผลิต คุณภาพ ต้นทุน การส่งมอบ ความปลอดภัย ขวัญกำลังใจ) จากกิจกรรมการผลิต  นั่นก็คือ ความคาดหวังว่าจะมีการยกระดับ “การผลิตผลิตภัณฑ์ตามปริมาณที่จำเป็น คุณภาพที่จำเป็น ด้วยต้นทุนที่จำเป็น ไม่ล่าช้าต่อระยะเวลาส่งมอบที่จำเป็น ด้วยความกระตือรือร้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงานที่ปลอดภัย” และในหัวข้อที่คาดหวังแต่ละอัน มีดัชนีชี้วัดเพื่อการประเมิน พวกเราจะมองสิ่งเหล่านี้ขณะต้องประเมินว่า “อะไรทำได้ อะไรที่ยังทำไม่ได้” อยู่เสมอ  สิ่งที่จำเป็นเพื่อการประเมินนี้คือ “กระดานกิจกรรม (Activity Board)”  เป็นสิ่งที่พวกเราต้องดำเนินการในกิจกรรมกลุ่มย่อย ●  สิ่งต่าง ๆ ในกิจกรรมการผลิต พวกเรา ต้องทำกิจกรรมการผลิตโดยใช้ของหลายอย่างจริง ๆ  และเพื่อใช้ “สิ่ง” เหล่านั้น มีสิ่งที่กำหนด (สิ่งที่สัญญา) ให้ต้องปฏิบัติตาม ในการบรรลุผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวัง ต้องปฏิบัติตามสิ่งที่กำหนดให้ปฏิบัติตามอย่างแน่นอน […]

ตอน 29 (Autonomous Maintenance)• การตรวจเช็คด้วยตนเอง 6. การตรวจเช็คด้วยตนเองในสถานที่ปฏิบัติงานด้วยมือ

       การตรวจเช็คโดยรวมของสถานที่ปฏิบัติงานด้วยมือ ให้ตรวจเช็คมาตรฐานการปฏิบัติงานชั่วคราวตาม “Check Sheet การปฏิบัติตามได้ยาก (การประเมินระดับความยากง่ายของการปฏิบัติงาน)”        แล้วทำการไคเซ็นข้อบกพร่อง จากนั้นจึงแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานการปฏิบัติงานชั่วคราวด้วยตัวหนังสือสีแดง       ใน Step 5 “การตรวจเช็คด้วยตนเอง” ให้ดำเนินการฝึกฝนการปฏิบัติงานให้ทุกคนตามเนื้อหานั้นก่อนที่จะทำให้เป็นมาตรฐานตัวจริง        มีการตรวจสอบเนื้อหาการปฏิบัติงาน และต้องทำการยกระดับทักษะการปฏิบัติงานของทุกคน  ในตอนนั้น จำเป็นต้องสร้างกลไกด้วยการจัดเตรียม “ตารางประเมินระดับทักษะ” และตรวจเช็คทักษะของผู้ปฏิบัติงาน เพื่อทำการฝึกฝนยกระดับทักษะอย่างต่อเนื่อง        ในการประเมินทักษะ ขอให้จำไว้ว่ามี 4 ระดับ คือ “รู้” “พอทำได้” “ทำได้ด้วยความมั่นใจ” “สามารถสอนได้” เรียบเรียงโดย  อาจารย์ณรงค์เกียรติ  นักสอนที่ปรึกษา TPM-JIPM

ตอน 28 (Autonomous Maintenance)• การตรวจเช็คด้วยตนเอง 5. แบ่งหน้าที่กับหน่วยงานซ่อมบำรุง

       เมื่อดำเนินการจนถึง Step 5 ของ AM แล้วก็แสดงว่าในตอนนี้ เราได้มาตรฐานการควบคุมเครื่องจักรและมาตรฐานการควบคุมการปฏิบัติงานที่กลุ่มคนของหน่วยงานผลิตต้องปฏิบัติตามแล้ว ●  เครื่องขัดข้องและของเสียเป็นความน่าละอายของหน้างาน       ตัวอย่างที่ได้พูดถึงจนถึงตรงนี้ คิดว่าเป็นหลักฐานพิสูจน์ว่าได้พัฒนาผู้ปฏิบัติงานให้ดำเนินการ AM จนสามารถคิดได้ว่า “เครื่องขัดข้องและของเสียเป็นความน่าละอายของหน้างาน” “เครื่องขัดข้องเป็นศูนย์-ของเสียเป็นศูนย์ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้”         ดังนั้น เมื่อมาถึงตรงนี้ กลุ่มคนที่สถานที่ทำงานแปรรูปด้วยเครื่องจักรต้องพูดคุยหารือกับกลุ่มคนของหน่วยงานซ่อมบำรุงเกี่ยวกับการแบ่งหน้าที่ในการควบคุมเครื่องจักร  ในหน่วยงานซ่อมบำรุงก็มีมาตรฐานเพื่อการรักษาไว้        ซึ่งโครงสร้างการบำรุงรักษาตามแผน (PM) เช่น การตรวจเช็คเป็นประจำหรือการซ่อมบำรุงเป็นประจำ  อีกด้าน สำหรับหน่วยงานผลิต การจัดเตรียมมาตรฐาน AM ก็ก้าวเข้าสู่ขั้นตอนที่ 1        ดังนั้น เพื่อให้ AM และ PM รักษาสภาพ “เครื่องขัดข้องเป็นศูนย์-ของเสียเป็นศูนย์” ในสถานที่ทำงาน จำเป็นต้องมีการพูดคุยหารือกันว่า “จะแบ่งหน้าที่กันอย่างไรในฐานะล้อขับเคลื่อนสองล้อของรถยนต์” […]

ตอน 27 (Autonomous Maintenance)• การตรวจเช็คด้วยตนเอง • 4. ตัวอย่างการค้นพบการเสื่อมสภาพด้านในเครื่องจักร

       ลำดับถัดไป เรามาแนะนำตัวอย่างจริงของการค้นพบการเสื่อมสภาพด้านในเครื่องจักรจากการที่ผู้ปฏิบัติงานทำงานตรวจเช็คประจำวัน ●  มันแปลกไปหน่อยนะ ?        ผู้ปฏิบัติงานคนหนึ่ง รู้ตัวว่า Cycle Time ของเครื่องจักรเริ่มยาวขึ้น จึงต้องเปิดวาล์วปรับการไหลของไฮดรอลิก  นั่นก็คือรู้สึกตัวว่าความเร็วค่อย ๆ เปลี่ยนไป แต่เมื่อตรวจเช็คโดยถอดกระบอกสูบออก ก็รู้ว่าปะเก็นของลูกสูบเสียหาย        ผู้ปฏิบัติงานคนหนึ่ง รู้สึกว่าเกียร์บ๊อกซ์มีเสียงดังขึ้นหน่อย เมื่อนำมาตรวัดแรงสั่นสะเทือนมาตรวจวัด ก็รู้ว่ามีการสั่นสะเทือนของเครื่องจักรข้าง ๆ จริง  เมื่อทำงานเสร็จแล้วตรวจเช็คด้านใน ก็รู้ว่า เฟืองดอกจอกเกิดการสึกหรอ backlash สูง ทำให้แบริงสึกหรอไปด้วย ●  ป้องกันคอยล์ขาดด้วยการเช็คความเป็นฉนวน        กลุ่มย่อยหนึ่งกลุ้มใจเรื่องเครื่องขัดข้องซึ่งเป็นการขาดของคอยล์ในเตาอบชุบ  ดังนั้นจึงได้ปรึกษากับวิศวกรการผลิตว่า “จะรู้เค้าลางผิดปกติล่วงหน้าก่อนที่คอยล์จะขาดได้หรือไม่” ก็ได้รับการสอนว่า “ถ้าเป็นการขาดเพราะเสื่อมสภาพ คิดว่าเป็นเพราะฉนวนค่อย ๆ เสื่อม”        ก็เลยใช้โอห์มมิเตอร์เช็คความเป็นฉนวนของคอยล์ทั้งหมด ก็พบว่ามีอยู่ตัวเดียวที่เสื่อม […]

ตอน 26 (Autonomous Maintenance)• การตรวจเช็คด้วยตนเอง • 3. ในการตรวจเช็คการเสื่อมสภาพด้านในเครื่องจักร

        กิจกรรมจนถึงตรงนี้ คิดว่าได้มีการยกระดับการตรวจเช็คลักษณะภายนอกได้ดีกว่าที่แล้วมา แต่โดยทั่วไปจะยังมีการตกหล่นของการตรวจเช็คการเสื่อมสภาพด้านในเครื่องจักร  นั่นมีสาเหตุมาจากการถอดใจว่า “การขัดข้องและของเสียที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนภายในเครื่องจักรเป็นสิ่งที่ป้องกันไม่ได้”        ดังนั้น ในที่นี้ มาพูดถึงวิธีการค้นหาการเสื่อมสภาพด้านในเครื่องจักรนั้นกันดีกว่า ●  การค้นพบระหว่างเดินเครื่อง        วิธีแรกสุดของการค้นพบการเสื่อมสภาพด้านในเครื่องจักร ก็คือการสังเกตระหว่างเดินเครื่อง ลองคิดถึงตัวอย่างของรถยนต์        ระหว่างขับรถ เคยรู้สึกถึงเค้าลาง เช่น “เบรกเหยียบลึกไปหน่อยแล้ว” “เหมือนคลัทช์ลื่นไถลไปหน่อย” “หมุนพวงมาลัยมากกว่าปกติหรือเปล่า”  หรือไม่        เกี่ยวกับเครื่องจักร เพราะเป็นผู้ปฏิบัติงานผู้สัมผัสเครื่องจักรนั้นเป็นประจำ จึงสามารถมองทะลุเค้าลางที่ว่า “มันแตกต่างจากปกติ” จากการสังเกตระหว่างเดินเครื่อง และนำไปสู่การค้นพบการเสื่อมสภาพด้านในเครื่องจักรระหว่างเดินเครื่องได้ ●  การตรวจเช็คด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าและการตรวจเช็คด้วยอุปกรณ์วัดคุม        ถัดจากนั้น เป็นวิธีการโดยใช้การตรวจเช็คด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าหรือตรวจวัดด้วยอุปกรณ์วัดคุมที่ผิวหน้าของแต่ละส่วนของเครื่องจักร  ในกรณีนี้ให้ลองคิดถึงตัวอย่างของลูกของตัวเอง        “มีไข้หน่อยนะเนี่ย” “มีอาการไอมากไหม” […]

ตอน 25 (Autonomous Maintenance)• การตรวจเช็คด้วยตนเอง 2. เมื่อเกิดเครื่องขัดข้องหรือของเสียจะทำอย่างไร

        แม้จะมีการปรับปรุงแก้ไข Check List ตามเอกสารมาตรฐานที่ทบทวนใหม่และดำเนินการตรวจเช็คประจำวันแล้วก็ตาม แต่ในเมื่อเอกสารมาตรฐานนั้นยังไม่ได้ 100 คะแนนเต็ม ก็ยังเกิดเครื่องขัดข้องหรือของเสียขึ้นได้  ในกรณีเช่นนี้ ต้องหาให้ได้ว่าสาเหตุนั้นอยู่ที่ไหน และทบทวนให้ดีว่ามีจุดที่ควรไคเซ็นในพฤติกรรมของพวกตนที่ไหน และจำเป็นต้องใส่เนื้อหานั้นเข้าไปในเอกสารมาตรฐาน        ต่อจากนี้จะขอพูดถึงจุดสำคัญในตอนทบทวน ● ใช้เครื่องขัดข้องและของเสียเป็นสื่อการสอนที่มีชีวิต        ก่อนอื่น ต้องทบทวนว่าทำไมจึงไม่สามารถค้นพบข้อบกพร่องที่เป็นสาเหตุของการเกิดเครื่องขัดข้องหรือของเสียก่อนที่จะเกิดได้  เครื่องขัดข้องและของเสียส่วนใหญ่ เกิดขึ้นเพราะผู้ปฏิบัติงานไม่สามารถมองทะลุข้อบกพร่องที่เชื่อมโยงสู่เครื่องขัดข้องหรือของเสียได้ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเกิด  ดังนั้นสิ่งสำคัญจึงต้องใช้เครื่องขัดข้องหรือของเสียที่เกิดขึ้นเสียแล้วเป็น “สื่อการสอนที่มีชีวิต” เชื่อมโยงสู่การยกระดับความสามารถของผู้ปฏิบัติงานให้สามารถค้นพบข้อบกพร่องล่วงหน้าได้        สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ การทบทวนวิธีการทำการตรวจเช็คประจำวัน จำเป็นต้องทบทวนเกี่ยวกับ เช่น “มีหัวข้อการตรวจเช็คข้อบกพร่องซึ่งเป็นสาเหตุหรือไม่” “มาตรฐานการตรวจเช็คนั้นถูกต้องหรือไม่” “ทั้งที่มีมาตรฐาน แต่ทำไมถึงปฏิบัติตามไม่ได้” เพื่อทบทวนเอกสารมาตรฐานและ Check List ●  ไคเซ็นให้ปฏิบัติตามได้ง่าย        ในเวลาเช่นนี้มักได้ยินคำพูดที่ว่า “ที่แล้วมาทำด้วยความรู้สึกที่ว่า “ต้องปฏิบัติตามให้ได้” แต่เพราะว่า […]

ตอน 24 (Autonomous Maintenance)• การตรวจเช็คด้วยตนเอง 1. ในการตรวจเช็คด้วยตนเองต้องทำอะไรบ้าง

จากตรงนี้จะขอพูดถึงจุดสำคัญของวิธีดำเนินการ Step 5 “การตรวจเช็คด้วยตนเอง” ● การเปลี่ยนมาตรฐานชั่วคราวให้เป็นมาตรฐานจริง        มาตรฐานของการบำรุงรักษาด้วยตนเอง (AM) ได้มีการจัดทำมาตรฐานชั่วคราวแล้วใน Step 3 แต่หลังจากนั้นต้องเพิ่มหัวข้อที่ต้องปฏิบัติตามจากการตรวจเช็คโดยรวม เนื้อหาก็จะยกระดับมากขึ้น        เพื่อการนี้ การตรวจเช็คโดยรวมนี้ต้องดำเนินการเปลี่ยนจากมาตรฐานชั่วคราวเป็นมาตรฐานจริง  อีกทั้งการเพิ่มหัวข้อที่ต้องปฏิบัติตามมากขึ้น จะทำให้ไม่สามารถทำภายในเวลาที่หัวหน้าหรือผู้จัดการกำหนดได้ จึงจำเป็นต้องมีการไคเซ็นเพื่อทำให้ปฏิบัติตามได้ง่ายขึ้น  ดังนั้นจุดสำคัญในการเปลี่ยนเป็นมาตรฐานจริงคือการใช้นาฬิกาจับเวลา ตรวจสอบดูว่า “สามารถตรวจเช็คตาม Check List ได้ภายในเวลาหรือไม่” จากนั้นก็ต้องทำการฝึกฝนจนกว่าผู้ปฏิบัติงานทุกคนสามารถทำได้อย่างแน่นอน        ในสถานที่ทำงานที่ปฏิบัติงานด้วยมือ ให้ทำตามมาตรฐานการปฏิบัติงานชั่วคราวที่มีการแก้ไขปรับปรุงด้วยตัวหนังสือสีแดง แล้วตรวจสอบดูว่าทุกคนสามารถปฏิบัติตามนั้นได้จริงแล้วจึงเปลี่ยนเป็นมาตรฐานจริง  อีกทั้งยังจำเป็นต้องมีการฝึกฝนจนกว่าทุกคนจะสามารถทำตามได้อย่างแน่นอน ● จากการควบคุมที่ผลสู่การควบคุมเชิงสาเหตุ        เดิมที จุดมุ่งหมายของการทำการตรวจเช็คด้วยตนเอง เพื่อให้พ้นจากสภาพที่เป็น “การควบคุมแบบไล่ตามหลัง” ไล่ตามความไม่ดีของผลที่เกิดขึ้นแล้วเช่น “เครื่องขัดข้องแล้ว” “เกิดของเสียแล้ว” “ความเร็วในการแปรรูปช้าลงแล้ว”  เพื่อการนี้ จึงต้องทำการควบคุมเงื่อนไขอันเป็นสาเหตุที่จะเชื่อมโยงสู่เครื่องจักรขัดข้องหรือเกิดของเสีย เมื่อถึงระดับที่ว่า “น่าจะเกิดเครื่องขัดข้องหรือน่าจะเกิดของเสีย” […]

Seraphinite AcceleratorOptimized by Seraphinite Accelerator
Turns on site high speed to be attractive for people and search engines.