ในตัวอย่างโรงงานมีทั้งปั๊มสุญญากาศแบบแนวนอนและแนวตั้ง ปั๊มสุญญากาศแบบแนวตั้งที่ติดตั้งใหม่มีแนวโน้มที่มีปัญหาเยอะ ในการเริ่มดำเนินการให้ “ปัญหาของปั๊มสุญญากาศ” เป็นศูนย์ ก่อนอื่น เริ่มจากการตรวจสอบ-ทำความเข้าใจหน้าที่และฟังก์ชันของอุปกรณ์ ต่อจากนั้นจึงเขียนเนื้อหาอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่การกำหนดขอบแขตเป้าหมายที่จะดำเนินมาตรการต่อปั๊มสุญญากาศ จนถึงการสำรวจเกณฑ์สมรรถนะ
Stage 1 ดำเนินการโดยแบ่งเป็น 6 Step ผังที่ 6-13 เป็นสิ่งที่อยู่ใน Step 3 “การกระจายเครื่องจักร – เข้าใจโครงสร้าง-ฟังก์ชัน” จัดทำขึ้นเพื่อทำความเข้าใจโครงสร้างของทั้งแบบแนวนอนและแบบแนวตั้ง เป็นผังโครงสร้างซึ่งผู้ปฏิบัติงานที่หน้างานจัดทำขึ้นเอง และยังใช้เป็นสื่อในการฝึกอบรมได้ด้วย
Step 4 การสะสางประวัติเครื่องจักร ดังแสดงในผังที่ 6-14 เป็นการทำให้มองเห็น (Visualize) ว่าเกิดปัญหาอย่างไหนเมื่อไร โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเชื่อมโยงสู่ Step ต่อไป
ผังที่ 6-14 การวิเคราะห์เครื่องจักรขัดข้องปัญหาใหญ่ และมาตรการ
ผังที่ 6-15 การวิเคราะห์เครื่องจักรขัดข้องปัญหาใหญ่ และมาตรการ
ผังที่ 6-16การเปรียบเทียบปั๊มสุญญากาศแนวนอนกับแนวตั้ง (ส่วนหนึ่ง)
สิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานดำเนินการวิเคราะห์การขัดข้องของเครื่องจักรเป็นดังผังที่ 6-15 ในที่นี้เขียนไว้ว่าเป็นการทำโดยร่วมมือกับสมาชิก PM แต่ในความเป็นจริงเป็นโรงงานที่ไม่มีสมาชิกที่เป็นช่างอยู่ประจำ จึงเป็นการร่วมมือกับผู้ดูแล PM
ได้มีการสำรวจเกณฑ์สมรรถนะของเครื่องจักรอุปกรณ์ และทำให้ชัดเจนว่าเมื่อหลุดเกณฑ์แล้วจะทำอะไร ทำความเข้าใจว่าเพื่อรักษาสมรรถนะที่เครื่องจักรควรจะเป็นจำเป็นต้องมีอะไร และทำให้ “ไม่เกิด – ไม่ให้เกิดปัญหา” อีกทั้งยังเรียนรู้ทักษะในการรับมือยามเกิดให้เป็นความรู้ติดตัวอีกด้วย
ใน Step 6-3 AM มีการทำให้มองเห็นว่าตอนสูญเสียฟังก์ชันในระดับชิ้นส่วนจะเป็นระดับสภาพแบบไหน ดังแสดงตัวอย่างในผังที่ 6-17
ผังที่ 6-17 ศึกษาผลกระทบเมื่อสูญเสียฟังก์ชัน
Step 6-3 ➀: ศึกษาผลกระทบเมื่อสูญเสียฟังก์ชัน
ศึกษาผลกระทบเมื่อเกิดปัญหา
กำหนดปัจจัยผลกระทบ กำหนดระดับ
★ เลือกปัจจัยผลกระทบ
เลือกของแต่ละชิ้นส่วน กำหนดระดับโดยพิจารณาจากผลที่เกิดในอดีต
เรียบเรียงโดย อาจารย์ณรงค์เกียรติ นักสอน
ที่ปรึกษา TPM-JIPM
